Spinning exercise
Health

6 เหตุผล ทำไมปั่นจักรยานมานาน แต่น้ำหนักไม่ลดสักที

เทรนด์การมีสุขภาพดีและรูปร่างที่ฟิตและแอนด์เฟิร์มเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องคนทุกเพศทุกวัยต่างก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุต่างก็เจียดเวลามาออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีรูปร่างที่ดีขึ้น

การปั่นจักรยานเป็นวิธีการออกกำลังสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเนื่องจากทำได้ที่ง่าย ทำได้บ่อย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก แต่ให้ประโยชน์มากมาย เช่นเร่งระบบการเผาผลาญ ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานอย่างมีประสิทธิภาพลดโอกาสในการเกิดโรคต่างๆ และยังช่วยเพิ่มระดับความแข็งแรงและทนทานอีกด้วยคุณอาจสังเกตเห็นคนรอบๆ ตัวที่พากันออกไปปั่นจักรยานทั้งตามสถานที่ต่างๆรวมถึงจักรยานออกกำลังกายในฟิตเนส ซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปร่างที่สมส่วนแต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ปั่นจักรยานมาก็นาน แต่ทำไมน้ำหนักก็ไม่ลดสักที เผลอๆอ้วนกว่าเดิม นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การปั่นจักรยานของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ

1. ไม่ได้ปรับตั้งจักรยานให้เหมาะสม

หลักพื้นฐานของการปั่นจักรยาน ได้แก่การปรับตั้งจักรยานให้เหมาะสมกับสรีระของคุณ ตั้งแต่ตำแหน่งด้ามยึดจับ ความสูงองศา และตำแหน่งของเบาะ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณออกกำลังกายได้สะดวกและนานขึ้นเท่านั้นแต่ยังช่วยให้การปั่นจักรยานมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่การปรับตั้งจักรยานที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควรหรืออาจนำไปสู่อาการบาดเจ็บได้ ดังนั้น ก่อนปั่นจักรยานทุกครั้งคุณควรจะปรับตั้งจักรยานเสียก่อนเริ่มตั้งแต่การปรับองศาที่นั่งให้สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างพอดีไม่ก้มหรือเงยมากเกินไปปรับความสูงของที่นั่งให้เหมาะสมเพื่อให้เหยียบแป้นได้อย่างสบายๆเมื่อเหยียบแป้นสุดขา หัวเข่าควรจะยืดได้เต็มที่ สะโพกจะไม่โยกไปโยกมาและควรปรับด้ามยึดจับให้ไม่สูงหรือต่ำเกินไปให้ข้อศอกจะต้องงอได้อย่างสบายๆเพื่อป้องกันอาการปวดมือ หลัง หรือคอ

2. วางตำแหน่งร่างกายไม่เหมาะสม

ท่าทางที่สมดุลระหว่างการปั่นจักรยานยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลดน้ำหนักการจัดท่าทางอย่างถูกวิธีจะทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในขณะปั่นแขน ขา หลัง เข่าจะต้องเหยียดได้อย่างปกติ จะต้องมีความสบาย ไม่เกร็งควรนั่งอยู่กึ่งกลางเบาะ ไม่ก้มมาด้านหน้าหรือนั่งไปด้านหลังเบาะมากเกินไปจับแฮนด์อย่างสบายๆ ข้อศอกต้องสามารถขยับเขยื้อนได้ ซึ่งออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานฟิตเนสอย่างถูกวิธีที่ฟิตเนส เฟิร์สทจะช่วยให้คุณประสบผลสำเร็จในการลดน้ำหนักได้

3. ขาดการตั้งเป้าหมาย

เป้าหมายจะทำให้คุณรู้ว่าคุณออกกำลังกายไปเพื่ออะไร แต่การออกกำลังกายให้เห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ประการ เช่น ระยะเวลาในการออกกำลังแต่ละครั้ง ความเข้มข้นของการออกกำลัง ฯลฯ แต่โดยทั่วไปควรจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ดังนั้น การตั้งเป้าหมายจะช่วยสร้างแรงกระตุ้น คุณอาจเริ่มท้าทายตัวเอง เช่น วันนี้ปั่นได้ 30 นาที พรุ่งนี้ก็ตั้งเป้าหมายให้ปั่นได้ 31 นาทีเป็นต้น

4. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

การดื่มน้ำจะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญของร่างกายและทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นรวมทั้งช่วยขับถ่ายของเสีย เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำคุณจะรู้สึกเพลียและไม่สามารถออกกำลังได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อาจเลือกเสริมด้วยเครื่องดื่มเกลือแร่ที่จะช่วยเติมเกลือแร่ที่สูญเสียไปกับเหงื่อซึ่งช่วยให้คุณฟื้นตัวเร็วขึ้น

5. อดอาหารก่อนปั่น

หลายคนเข้าใจว่าการไม่รับประทานอาหารก่อนออกกำลังจะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันเก่ามาใช้ได้เร็วยิ่งขึ้นแท้จริงแล้ว ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานการอดอาหารจะทำให้คุณไม่มีแรง รู้สึกหิว และเพลียส่งผลให้การปั่นไม่มีประสิทธิภาพและนำไปสู่การรับประทานอาหารในปริมาณที่มากขึ้นคุณไม่จำเป็นต้องทานอาหารให้อิ่มแปล้แค่ทานพออิ่มหรือรองท้องด้วยของว่างก็เพียงพอแล้ว

ใครที่ยังลดน้ำหนักด้วยการปั่นจักรยานไม่ได้ผลก็ลองพิจารณาตัวเองดูว่าเข้าข่ายเหล่านี้หรือไม่ เพื่อปรับแก้ไขข้อบกพร่องอันจะนำไปสู่การปั่นจักรยานอย่างถูกวิธีและน้ำหนักที่ลดลง ทั้งนี้อย่าละเลยการทานอาหารที่มีประโยชน์ตลอดจนการพักผ่อนที่เพียงพอซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักอย่างได้ผล